BDSS : Assignment 4 'The four-step decision process in groups'
กำหนดส่งก่อน 29 มกราคม 2552
Referring to the class on Sat Jan.24., 'The four-step decision process in groups' was introduced and your project meeting may use the collaborative ways to do the 4th assignment.
Regarding your homework, It should be around 2-3 pages and has to be submitted within Thu Jan 29, 2009.
Ref.: http://www.companyculture.com/change/betterdecisions.htm
Good luck and Have a great Chinese new year
ธัญนิจ วุฒินาม (เจ้าของบล็อก)
2552-01-21
ไปเชียงใหม่
เชียงใหม่เจ้า............
หน้าตองอีก) และกลับที่พัก รู้สึกว่าจะพักที่เขาขุนกวางนะค่ะ ที่นั้นหนาวมาก น้ำอาบไม่มีน้ำอุ่น และที่นอนก็นอนรวมกัน 40 คน แล้วฝุ่นเยอะมาก อยากจะบ้าตาย (เราก็ไม่สบายด้วย ไอรบกวนชาวบ้านบนรถไฟแล้วยังจะมาไอรบกวนคืนนี้อีก ฮิฮิ) แต่อาหารอร่อยมากค่ะ (หรือว่าเราหิวก็ไม่รู้เล่นทานไปได้อย่างไรจานใหญ่มาก) แล้วก็จับรางวัล ตอนดีกและปล่อยโคมลอยเสร็จก็เข้านอน
ตอนเย็นก็เลยไปซื้อของที่วนัสนันต่อและกลับที่พักนอนในเมือง (เหนื่อยไปอีกวัน แต่ของกลับกรุงเทพเพียบ มีแต่ผักเพื่อสุขภาพทั้งนั้น) พอถึงที่พักก็เก็บของพอมืดๆ ก็เปิดเดินตลาดคนเดิน ไปทานส้มตำยกครกมา ขอบอกอร่อยมาก แซบมากๆ อยากจะไปทานอีกนะเนี่ยแต่ราคาก็สุดยอดเช่นกันค่ะ ใครไปเที่ยวแถวนั้นก็อย่าลืมแวะทานได้นะคะ ทานเสร็จแล้วก็เดินเล่นกันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมา (คนอื่นได้มาเพียบ) เหตุผลเพราะว่าของเหล่านนั้นที่ขายเราซื้อได้ที่จตุจักร และราคาก็ใกล้เคียงกัน ก็เลยขี้เกรียจถือนะ ก็กลับถึงที่พักประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ อาบน้ำนอนหลับเป็นตาย นี่เป็นคืนแรกที่หลับสนิทแบบสบายๆ หลังจากที่จะต้องผจญภัยมาตั้งแต่วันที่ 15 คืออาจารย์และทุกคนไปเที่ยวกันโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางต่อไปว่าจะไปไหน ลุ้นอย่างเดียว สุดยอดมากๆๆๆ ทำไปได้
วันที่ 15-18 มกราคม 2552
สนับสนุนโดยโรงเรียนพณิชยการสุโขทัยวันที่ 15-16 มกราคม 2552 
เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาที่ทำงานได้จัดสัมนาที่เชียงใหม่ นั่งรถไฟไป จากหัวลำโพงถึงเชียงใหม่ ตอนแรกรถออก 19.15 น. ของวันที่ 15 มกราคม แต่เอาเข้าจริงเกือบ 3 ทุ่มเลย สุดยอดมากรถไฟไทย และไปถึง เชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้าของวันที่ 16 มกราคม ไปถึงก็ไปบ่อสร้าง ไปหาอะไรกินตอนเช้า และไปกินข้าวซอยตอนเที่ยงขอบอกอร่อยมาก (แต่จำชื่อร้านไม่ได้) กินเสร็จก็ไปขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พระฐาตุดอยสุเทพ และก็เลยไปดอกสุเทพ ที่นั้นอากาศเย็นดีมากเลย แถม ดอกไม้ก็ดอกใหญ่สวยมาก กุหลาบหอมมากค่ะ (เลยเก็บเอามาแซวเพื่อนว่าดอกใหญ่กว่า
เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาที่ทำงานได้จัดสัมนาที่เชียงใหม่ นั่งรถไฟไป จากหัวลำโพงถึงเชียงใหม่ ตอนแรกรถออก 19.15 น. ของวันที่ 15 มกราคม แต่เอาเข้าจริงเกือบ 3 ทุ่มเลย สุดยอดมากรถไฟไทย และไปถึง เชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้าของวันที่ 16 มกราคม ไปถึงก็ไปบ่อสร้าง ไปหาอะไรกินตอนเช้า และไปกินข้าวซอยตอนเที่ยงขอบอกอร่อยมาก (แต่จำชื่อร้านไม่ได้) กินเสร็จก็ไปขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พระฐาตุดอยสุเทพ และก็เลยไปดอกสุเทพ ที่นั้นอากาศเย็นดีมากเลย แถม ดอกไม้ก็ดอกใหญ่สวยมาก กุหลาบหอมมากค่ะ (เลยเก็บเอามาแซวเพื่อนว่าดอกใหญ่กว่า
หน้าตองอีก) และกลับที่พัก รู้สึกว่าจะพักที่เขาขุนกวางนะค่ะ ที่นั้นหนาวมาก น้ำอาบไม่มีน้ำอุ่น และที่นอนก็นอนรวมกัน 40 คน แล้วฝุ่นเยอะมาก อยากจะบ้าตาย (เราก็ไม่สบายด้วย ไอรบกวนชาวบ้านบนรถไฟแล้วยังจะมาไอรบกวนคืนนี้อีก ฮิฮิ) แต่อาหารอร่อยมากค่ะ (หรือว่าเราหิวก็ไม่รู้เล่นทานไปได้อย่างไรจานใหญ่มาก) แล้วก็จับรางวัล ตอนดีกและปล่อยโคมลอยเสร็จก็เข้านอนวันที่ 17 มกราคม 2552
หลังจากทานอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็เดินถ่ายรูปกันสนุกมาก ได้เห็นดอกบ้วย ดอกชากุระเมืองไทย ลูกท้อ ฯลฯ เล่นเดินเอาซะเหนื่อยเลย และกลับมาถ่ายรูปกลุ่มรวมกันทั้งโรงเรียน พร้อมทั้งมอบของขวัญให้หัวหน้าบี (หัวหน้าโรสเองค่ะ ) เค้าได้รางวัลครูดีเด่นประจำปี 2550 แล้วก็ไปขึ้นดอยอินทนนท์กัน ที่นั้นสุดยอดของความหนาวมาก เพราะตอน 6 โมงเช้าติด ลบ 2 องศา พอเราไป
ก็ประมาณ 0 องศา เล่นเอาหนาวแก้มแดงเลย แล้วก็ลงมาซื้อของฝากที่ตลาดสดด้านล่างพร้อมทั้แวะกินข้าวเที่ยงแถวนั้น (ติดใจน้ำพริกอ่องนะ อร่อยมากเลย) ก็ซื้อผักสดมาเยอะมากโดยเฉพาะฟักทองเหลืองและผักกาดขาวหัวใหญ่ เป็นของโครงการหลวงนะถูกมาก อร่อยด้วย และบ่ายก็เลยไปสวนหลวงสิริภูมิ (โครงการหลวง) ที่นั้นดอกไม้สวยมากและปูเล่ ดอกใหญ่มาก อยากได้ไปปลูกที่บ้านจังเลย และ
หลังจากทานอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็เดินถ่ายรูปกันสนุกมาก ได้เห็นดอกบ้วย ดอกชากุระเมืองไทย ลูกท้อ ฯลฯ เล่นเดินเอาซะเหนื่อยเลย และกลับมาถ่ายรูปกลุ่มรวมกันทั้งโรงเรียน พร้อมทั้งมอบของขวัญให้หัวหน้าบี (หัวหน้าโรสเองค่ะ ) เค้าได้รางวัลครูดีเด่นประจำปี 2550 แล้วก็ไปขึ้นดอยอินทนนท์กัน ที่นั้นสุดยอดของความหนาวมาก เพราะตอน 6 โมงเช้าติด ลบ 2 องศา พอเราไป
ก็ประมาณ 0 องศา เล่นเอาหนาวแก้มแดงเลย แล้วก็ลงมาซื้อของฝากที่ตลาดสดด้านล่างพร้อมทั้แวะกินข้าวเที่ยงแถวนั้น (ติดใจน้ำพริกอ่องนะ อร่อยมากเลย) ก็ซื้อผักสดมาเยอะมากโดยเฉพาะฟักทองเหลืองและผักกาดขาวหัวใหญ่ เป็นของโครงการหลวงนะถูกมาก อร่อยด้วย และบ่ายก็เลยไปสวนหลวงสิริภูมิ (โครงการหลวง) ที่นั้นดอกไม้สวยมากและปูเล่ ดอกใหญ่มาก อยากได้ไปปลูกที่บ้านจังเลย และ
ตอนเย็นก็เลยไปซื้อของที่วนัสนันต่อและกลับที่พักนอนในเมือง (เหนื่อยไปอีกวัน แต่ของกลับกรุงเทพเพียบ มีแต่ผักเพื่อสุขภาพทั้งนั้น) พอถึงที่พักก็เก็บของพอมืดๆ ก็เปิดเดินตลาดคนเดิน ไปทานส้มตำยกครกมา ขอบอกอร่อยมาก แซบมากๆ อยากจะไปทานอีกนะเนี่ยแต่ราคาก็สุดยอดเช่นกันค่ะ ใครไปเที่ยวแถวนั้นก็อย่าลืมแวะทานได้นะคะ ทานเสร็จแล้วก็เดินเล่นกันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมา (คนอื่นได้มาเพียบ) เหตุผลเพราะว่าของเหล่านนั้นที่ขายเราซื้อได้ที่จตุจักร และราคาก็ใกล้เคียงกัน ก็เลยขี้เกรียจถือนะ ก็กลับถึงที่พักประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ อาบน้ำนอนหลับเป็นตาย นี่เป็นคืนแรกที่หลับสนิทแบบสบายๆ หลังจากที่จะต้องผจญภัยมาตั้งแต่วันที่ 15 คืออาจารย์และทุกคนไปเที่ยวกันโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางต่อไปว่าจะไปไหน ลุ้นอย่างเดียว สุดยอดมากๆๆๆ ทำไปได้วันที่ 18 มกราคม 2552
ก็เป็นวันกลับบ้านที่กรุงเทพ เที่ยวรถไฟที่จะกลับคือ 08.20 น. แต่ปาเข้าไป 3 โมงเช้ากว่าจะได้กลับ พอขึ้นรถได้นอนอย่างเดียวค่ะ เหนื่อยมากค่ะ แต่หัวหน้าและเพื่อนอีกหลายคนเค้าก็สุดยอดค่ะ ไม่พักเลยตั้งแต่เมื่อคืนมัวแต่บูรณาการข้ามหมวดทั้งวัน (นั่งนัยเลขค่ะ) เป็นตัวเองคงเดี้ยงไปแล้วล่ะ พอบ่ายๆ ไม่มีอะไรทานเริ่มหิวและร้อนมาก เหมือนจะทรมานอีกแล้ว แต่ก็ต้องทนนะ เพราะไม่มีอะไรให้กินอีกแล้วนะสิ ก็ทนจนถึงกรุงเทพ เหมือนสวรรค์มาโปรด อยากให้ถึงสถานีไวๆ คุณเจ้าหน้าที่รถไฟบอกว่า ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ถึง แต่ที่ไหนได้ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่า เฮ้อ! เหนื่อยมากๆ กับการเดินทางครั้งนี้ แล้วเก็บภาพสวยๆ ของเจ้าของบล็อกและสถานที่มาฝากเยอะมาก ถ่ายไปเกือบ 2 พันรูปแนะ แต่เลือกเอามาลงเพียงบางส่วนนะ
ก็เป็นวันกลับบ้านที่กรุงเทพ เที่ยวรถไฟที่จะกลับคือ 08.20 น. แต่ปาเข้าไป 3 โมงเช้ากว่าจะได้กลับ พอขึ้นรถได้นอนอย่างเดียวค่ะ เหนื่อยมากค่ะ แต่หัวหน้าและเพื่อนอีกหลายคนเค้าก็สุดยอดค่ะ ไม่พักเลยตั้งแต่เมื่อคืนมัวแต่บูรณาการข้ามหมวดทั้งวัน (นั่งนัยเลขค่ะ) เป็นตัวเองคงเดี้ยงไปแล้วล่ะ พอบ่ายๆ ไม่มีอะไรทานเริ่มหิวและร้อนมาก เหมือนจะทรมานอีกแล้ว แต่ก็ต้องทนนะ เพราะไม่มีอะไรให้กินอีกแล้วนะสิ ก็ทนจนถึงกรุงเทพ เหมือนสวรรค์มาโปรด อยากให้ถึงสถานีไวๆ คุณเจ้าหน้าที่รถไฟบอกว่า ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ถึง แต่ที่ไหนได้ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่า เฮ้อ! เหนื่อยมากๆ กับการเดินทางครั้งนี้ แล้วเก็บภาพสวยๆ ของเจ้าของบล็อกและสถานที่มาฝากเยอะมาก ถ่ายไปเกือบ 2 พันรูปแนะ แต่เลือกเอามาลงเพียงบางส่วนนะ
รูปอาจจะไม่เรียง เพราะว่าถ่ายหลายกล้องมาก แต่ของตัวเองไม่มีก็เลยไปแจมเค้าดีกว่า สบายค่ะ ได้มีรูปทุกที่
ธัญนิจ วุฒินาม (เจ้าของบล็อก)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)